ระเบียบสหกรณ์
ว่าด้วย เจ้าหน้าที่และข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน พ.ศ.2550

                                                          หมวด  14
                                                        การร้องทุกข์
                การร้องทุกข์  หมายถึง  กรณีที่เจ้าหน้าที่มีความไม่พอใจหรือมีความทุกข์อันเกิดขึ้นเนื่องจากการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสภาพการทำงาน สภาพการจ้าง การบังคับบัญชา การสั่งหรือมอบหมายงาน การจ่ายค่าตอบแทนในการทำงานหรือประโยชน์อื่น หรือการปฏิบัติใดที่ไม่เหมาะสมระหว่างสหกรณ์หรือผู้บังคับบัญชาต่อเจ้าหน้าที่ หรือระหว่างเจ้าหน้าที่ด้วยกันและเจ้าหน้าที่ได้เสนอความไม่พอใจหรือความทุกข์นั้นต่อสหกรณ์ เพื่อให้สหกรณ์ได้ดำเนินการแก้ไขหรือยุติเหตุการณ์นั้น  ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความสัมพันธ์อันดีระหว่างสหกรณ์และเจ้าหน้าที่ของสหกรณ์ และเพื่อให้เจ้าหน้าที่ทำงานด้วยความสุข
                ข้อ  57 ขอบเขตของการร้องทุกข์ เจ้าหน้าที่ที่มีความไม่พอใจหรือมีความทุกข์เนื่องจากการทำงานดังกล่าวข้างต้น ควรยื่นคำร้องทุกข์ต่อผู้บงคับบัญชาโดยตรงหรือผู้บังคับบัญชาชั้นแรกของตนโดยเร็วเว้นแต่เรื่องที่จะร้องทุกข์เกี่ยวกับการปฏิบัติของผู้บังคับบัญชา หรือผู้บังคับบัญชาเป็นต้นเหตุก็ให้ยื่นคำร้องทุกข์ต่อผู้บังคับบัญชาสูงขึ้นไปอีกชั้นหนึ่งโดยมีวิธีการและขั้นตอน ดังนี้
                (1) เจ้าหน้าที่ที่ประสงค์จะร้องทุกข์เป็นหนังสือด้วยตัวเองต่อผู้จัดการ  หรือกรรมการที่ได้รับมอบหมายแล้วแต่กรณีภายใน 7 วัน นับแต่วันที่มีความขัดแย้ง
                (2) ผู้จัดการหรือกรรมการที่ได้รับมอบหมายแล้วแต่กรณีต้องทำการสอบสวนและพิจารณาวินิจฉัยให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับคำร้องทุกข์
                (3) ผู้จัดการหรือกรรมการที่ได้รับมอบหมายแล้วแต่กรณีต้องทำการสอบสวนและพิจารณา ชี้แจงทำความเข้าใจ  หรือวินิจฉัยเป็นหนังสือก็ได้ การแจ้งผลการพิจารณาโดยการชี้แจงด้วยวาจาให้บันทึกคำชี้แจงเหตุผลไว้ในสำนวน โดยให้ผู้ร้องทุกข์ลงลายมือชื่อรับทราบไว้ด้วย
                ข้อ  58 การสอบสวนและพิจารณา เมื่อผู้บังคับบัญชาได้รับคำร้องทุกข์จากเจ้าหน้าที่แล้วให้รีบดำเนินการสอบสวนเพื่อให้ทราบข้อเท็จจริงในเรื่องที่ร้องทุกข์นั้นโดยละเอียดเท่าที่จะทำได้ โดยดำเนินการด้วยตนเอง หรือด้วยความช่วยเหลือจากคณะกรรมการดำเนินการหรือบุคคลอื่น ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ผู้ยื่นคำร้องทุกข์เห็นชอบที่จะขอให้ข้อเท็จจริงโดยละเอียดแก่ผู้บังคับบัญชาด้วยเมื่อสอบสวนข้อเท็จจริงแล้ว ให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาเรื่องราวร้องทุกข์นั้น หากเป็นเรื่องที่อยู่ในขอบเขตของอำนาจหน้าที่ของผู้บังคับบัญชานั้น และผู้บังคับบัญชาสามารถแก้ไขได้ก็ให้ผู้บังคับบัญชาดำเนินการแก้ไขให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว แล้วแจ้งให้เจ้าหน้าที่ผู้ยื่นคำร้องทุกข์ทราบพร้อมทั้งรายงานให้คณะกรรมการดำเนินการทราบด้วย
                หากเรื่องราวที่ร้องทุกข์นั้น เป็นเรื่องราวที่อยู่นอกเหนืออำนาจหน้าที่ของผู้บังคับบัญชานั้นให้ผู้บังคับบัญชากล่าวเสนอเรื่องราวที่ร้องทุกข์    พร้อมทั้งข้อเสนอในการแก้ไขหรือความเห็นต่อผู้บังคับบัญชาระดับสูงขึ้นไปตามลำดับ
                ให้ผู้บังคับบัญชาสูงขึ้นไปดำเนินการสอบสวนและพิจารณาคำร้องทุกข์เช่นเดียวกับผู้บังคับบัญชาระดับต้นที่ได้รับความร้องทุกข์
                ข้อ  59 กระบวนการยุติข้อร้องทุกข์    เมื่อผู้บังคับบัญชาแต่ละขั้นที่ได้พิจารณาคำร้องทุกข์ดำเนินการแก้ไขหรือยุติเหตุการณ์ที่เกิดการร้องทุกข์และแจ้งให้เจ้าหน้าที่ผู้ยื่นคำร้องทุกข์ทราบหากเจ้าหน้าที่ผู้ยื่นคำร้องทุกข์พอใจ ก็ให้แจ้งให้ผู้บังคับบัญชาทราบโดยเร็ว  แต่ถ้าเจ้าหน้าที่ผู้ร้องทุกข์ไม่พอใจ ก็ให้ยื่นอุทธรณ์โดยกรอกข้อความที่อุทธรณ์ลงในแบบพิมพ์ที่สหกรณ์ได้กำหนดขึ้นและยื่นต่อคณะกรรมการดำเนินการภายใน 7 วัน นับแต่วันที่ทราบผลการร้องทุกข์จากผู้บังคับบัญชาระดับต้น
                คณะกรรมการดำเนินการจะพิจารณาอุทธรณ์ และดำเนินการแก้ไขหรือยุติเหตุการณ์ตามคำร้องทุกข์และแจ้งผลการพิจารณาดำเนินการให้เจ้าหน้าที่ผู้ยื่นคำร้องทุกข์ทราบภาย ใน 15 วัน
                ข้อ  60 การอุทธรณ์คำวินิจฉัย 
                                (1) ผู้ร้องทุกข์ที่ไม่พอใจคำชี้แจงหรือคำวินิจฉัย   มีสิทธิอุทธรณ์ต่อประธานกรรมการหรือกรรมการที่ได้รับมอบหมายแล้วแต่กรณี เป็นหนังสือภายใน 7 วันนับแต่วันที่ได้รับคำชี้แจงหรือวินิจฉัย
                                (2)  ประธานกรรมการ หรือกรรมการที่ได้รับมอบหมายแล้วแต่กรณีจะแจ้งผลการพิจารณา อุทธรณ์ด้วยการชี้แจงทำความเข้าใจ  หรือการวินิจฉัยเป็นหนังสือก็ได้   การแจ้งผลด้วยการชี้แจงด้วยวาจาให้บันทึกคำชี้แจงเหตุผลไว้ในสำนวน โดยให้ผู้ร้องทุกข์ลงลายมือชื่อรับทราบไว้ด้วย
                                 (3)  การอุทธรณ์ไม่เป็นเหตุให้รอการลงโทษตามคำสั่งของผู้มีอำนาจ
                ข้อ  61 ความคุ้มครองผู้ร้องทุกข์และผู้เกี่ยวข้อง
                                (1) ผู้ร้องทุกข์จะได้รับการพิจารณาอย่างเป็นระบบและด้วยความเป็นธรรม
                                (2) ผู้ร้องทุกข์จะไม่ถูกกลั่นแกล้ง ย้ายหน้าที่การงาน หรือลงโทษแต่อย่างใด เว้นแต่จะเป็นการร้องทุกข์ด้วยเจตนาที่ไม่สุจริต
                                (3) เจ้าหน้าที่ที่ให้การเป็นพยาน หรือให้การร่วมมือในการสอบสวนจะได้รับความคุ้มครอง  โดยจะไม่ถูกกลั่นแกล้ง ย้ายหน้าที่การงาน หรือลงโทษ เว้นแต่เจ้าหน้าที่ที่ให้การด้วยอคติปรักปรำ ให้ร้ายเป็นเท็จ หรือไม่ให้ความร่วมมือในการสอบสวนหาความจริง การสอบสวนอาจกระทำโดยคณะกรรมการที่สหกรณ์แต่งตั้งก็ได้

                                               หมวด  15
                                        การสิ้นสุดการจ้าง
                ข้อ  62 การจ้างงาน จะสิ้นสุดลงด้วยเหตุหนึ่งเหตุใด ดังนี้
                                (1) ตาย
                                (2) ลาออก
                                (3) เลิกจ้างตามสัญญาจ้าง หรือข้อบังคับสหกรณ์
                ข้อ  63 การตาย ในกรณีที่เจ้าหน้าที่ถึงแก่ความตาย    สหกรณ์จะจ่ายค่าจ้างหรือเงินอื่นให้ทายาทโดยชอบธรรมของเจ้าหน้าที่ที่ถึงแก่ความตาย ส่วนเงินทดแทนหรือประโยชน์ทดแทนให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยกองทุนเงินทดแทน  หรือกฎหมายประกันสังคม
                ข้อ  64  การลาออก เจ้าหน้าที่ที่ยื่นใบลาออกล่วงหน้าตามที่สหกรณ์กำหนดต่อผู้จัดการหรือคณะกรรมการดำเนินการแล้วแต่กรณี โดยให้ยื่นในวันหรือก่อนวันจ่ายค่าจ้างในเดือนนั้นและให้มีผลเมื่อถึงกำหนดในวันจ่ายค่าจ้างในเดือนถัดไป
                การลาออกของเจ้าหน้าที่ที่ฝ่าฝืนระเบียบการลาดังกล่าว  ถ้าทำให้สหกรณ์เสียหายสหกรณ์มีความชอบธรรมที่จะหักเงินประกัน หรือเงินอื่นใดที่เจ้าหน้าที่ยินยอมชดใช้ความเสียหายดังกล่าวได้ รวมถึงอาจดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ที่กระทำความผิด เพื่อให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ค้ำประกันชดใช้ความเสียหายได้ด้วย ตามที่กฎหมายแรงงานกำหนด
               

                ข้อ  65 การเลิกจ้าง 
                การเลิกจ้าง หมายถึง เจ้าหน้าที่ที่สหกรณ์ได้ให้พ้นสภาพการเป็นเจ้าหน้าที่ของสหกรณ์โดย สหกรณ์เลิกจ้าง หรือไม่ฝ่าฝืนการประเมินผลการปฏิบัติงาน อันเนื่องจากเจ้าหน้าที่ขาดคุณสมบัติในการทำงาน มีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ยุบหน่วยงาน เลิกกิจการ เกษียณอายุ หรือกระทำความผิดอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือได้รับโทษทางวินัยตามข้อ 47 (1) และ (2)
                ให้คณะกรรมการดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการคณะหนึ่งหรือหลายคณะ ดำเนินการประเมินผลการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่  ให้ครอบคลุมการปฏิบัติงานทุกสี่ปี
                การเลิกจ้างดังกล่าว สหกรณ์จะแจ้งผลและวันเลิกจ้างให้เจ้าหน้าที่ทราบเป็นหนังสือโดยจะแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบล่วงหน้า 1 งวดการจ่ายค่าจ้าง เว้นแต่เจ้าหน้าที่ที่จ้างไว้โดยมีกำหนดระยะเวลาแน่นอน  หรือเจ้าหน้าที่ที่กระทำความผิด และไม่มีสิทธิได้รับค่าชดเชย
                ในกรณีที่สหกรณ์ไม่อาจบอกกล่าวล่วงหน้าได้ สหกรณ์จะจ่ายเงินให้แก่เจ้าหน้าที่แทนการบอกกล่าวล่วงหน้า
                การสิ้นสุดการจ้างตามสัญญาจ้าง  หากสหกรณ์กำหนดเงื่อนไขระยะเวลาการจ้างในสัญญา จ้างไว้เป็นรายบุคคลอย่างไร ก็ให้ระยะเวลาการจ้างสิ้นสุดตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในสัญญาจ้างเป็น รายบุคคลนั้น

                                              หมวด  16
                       ค่าชดเชย  ค่าชดเชยพิเศษ และเงินบำเหน็จ
                ข้อ  66 ค่าชดเชย สหกรณ์จะจ่ายค่าชดเชยให้แก่เจ้าหน้าที่ที่ถูกเลิกจ้าง ดังนี้
                       (1) เจ้าหน้าที่ ซึ่งทำงานติดต่อกันครบหนึ่งร้อยยี่สิบวัน แต่ไม่ครบหนึ่งปี ให้จ่ายไม่น้อยกว่าค่าจ้างอัตราสุดท้ายสามสิบวัน 
                       (2) เจ้าหน้าที่ ซึ่งทำงานติดต่อกันครบหนึ่งปี แต่ไม่ครบสามปี ให้จ่ายไม่น้อยกว่าค่าจ้างอัตราสุดท้ายเก้าสิบวัน
                       (3) เจ้าหน้าที่ ซึ่งทำงานติดต่อกันครบสามปี แต่ไม่ครบหกปี ให้จ่ายไม่น้อยกว่าค่าจ้างอัตราสุดท้ายหนึ่งร้อยแปดสิบวัน
                       (4) เจ้าหน้าที่ ซึ่งทำงานติดต่อกันครบหกปีแต่ไม่ครบสิบปี ให้จ่ายไม่น้อยกว่าค่าจ้างอัตราสุดท้ายสองร้อยสี่สิบวัน  
                       (5) เจ้าหน้าที่ ซึ่งทำงานติดต่อกันครบสิบปีขึ้นไป  ให้จ่ายไม่น้อยกว่าค่าจ้างอัตรา สุดท้ายสามร้อยวัน
                ข้อ 67 ข้อยกเว้นในการไม่จ่ายค่าชดเชย สหกรณ์ไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยให้แก่เจ้าหน้าที่ซึ่งเลิกจ้างในกรณีหนึ่งกรณีใด ดังนี้
                        (1) ทุจริตต่อหน้าที่หรือกระทำความผิดอาญาโดยเจตนาแก่นายจ้าง
                        (2) จงใจทำให้นายจ้างได้รับความเสียหาย
                        (3) ประมาทเลินเล่อเป็นเหตุให้นายจ้างได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรง
                        (4)  ฝ่าฝืนข้อบังคับเกี่ยวการทำงานหรือระเบียบหรือคำสั่งของนายจ้างอันชอบด้วย
กฎหมายและเป็นธรรม และนายจ้างได้ตักเตือนเป็นหนังสือแล้ว เว้นแต่กรณีที่ร้ายแรงนายจ้างไม่จำเป็น ต้องตักเตือน  หนังสือเตือนให้มีผลบังคับใช้ได้ไม่เกินหนึ่งปี  นับแต่วันที่ลูกจ้างได้กระทำผิด
                        (5) ละทิ้งหน้าที่เป็นเวลาสามวันทำงานติดต่อกัน   ไม่ว่าจะมีวันหยุดคั่นหรือไม่ก็ตามโดยไม่มีเหตุอันควร
                        (6) ได้รับโทษจำคุกตามคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก เว้นแต่เป็นโทษสำหรับความ ผิดที่ได้กระทำโดยประมาทหรือลหุโทษ
                สหกรณ์ไม่จ่ายค่าชดเชยให้แก่เจ้าหน้าที่ที่สหกรณ์จ้างไว้โดยมีกำหนดระยะเวลาการจ้าง แน่นอนตามสัญญาจ้าง และถูกเลิกจ้างตามกำหนดระยะเวลาของสัญญาจ้างนั้น
                ข้อ  68 ค่าชดเชยพิเศษ
                          ก. ในกรณีที่สหกรณ์ย้ายที่ทำการของสหกรณ์ไปตั้ง ณ สถานที่อื่น อันมีผลกระทบ
สำคัญต่อการดำรงชีวิตตามปกติของเจ้าหน้าที่หรือครอบครัว สหกรณ์ต้องแจ้งให้เจ้าหน้าที่    ทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 30 วัน  ก่อนวันย้ายที่ทำการสหกรณ์ในการนี้ถ้าเจ้าหน้าที่ไม่ประสงค์จะไปทำงานด้วยให้เจ้าหน้าที่มีสิทธิบอกเลิกสัญญาจ้างได้  โดยเจ้าหน้าที่มีสิทธิได้รับค่าชดเชยพิเศษไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ของอัตราค่าชดเชยที่เจ้าหน้าที่พึงมีสิทธิได้รับ
                           ข. ในกรณีที่สหกรณ์มีความจำเป็นต้องลดจำนวนเจ้าหน้าที่อันเนื่องมาจากการปรับ-
ปรุงหน่วยงานระบบการทำงาน หรือการบริการ สหกรณ์จะปฏิบัติดังนี้
                                (1) แจ้งวันที่เลิกจ้าง เหตุผลของการเลิกจ้างให้เจ้าหน้าที่ทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 60 วัน
                                (2)  จ่ายค่าชดเชยพิเศษเพิ่มเติมจากค่าชดเชยตามข้อ 66   เท่ากับค่าจ้างอัตราสุดท้าย 15 วันต่อการทำงาน 1 ปี สำหรับเจ้าหน้าที่ที่ทำงานติดต่อกัน 6 ปีขึ้นไป ทั้งนี้ ค่าชดเชยพิเศษดังกล่าวจะไม่เกินค่าจ้างอัตราสุดท้ายสามร้อยหกสิบวัน
                ข้อ  69 เงินบำเหน็จ  เจ้าหน้าที่สหกรณ์คนใดทำงานในสหกรณ์นี้ด้วยความเรียบร้อย  เป็นเวลาติดต่อกันมาไม่น้อยกว่าสิบปีขึ้นไป อาจมีสิทธิได้รับเงินบำเหน็จเมื่อออกจากตำแหน่ง  เว้นแต่การออกเพราะการถูกลงโทษ  ไล่ออก  หรือเลิกจ้าง
                การคำนวณเงินบำเหน็จให้เอาเงินเดือนสุดท้ายตั้งคูณด้วยจำนวนปีที่ทำงานในสหกรณ์ เศษของปีถ้าถึง  180  วัน ให้นับเป็นหนึ่งปี ถ้าต่ำกว่านี้ให้ปัดทิ้ง
                จำนวนปีที่ทำงาน  หมายถึง  ระยะเวลาวันที่บรรจุเจ้าหน้าที่เข้าทำงานในสหกรณ์จนถึงวันที่ลาออกจากสหกรณ์หักด้วยวันลาของผู้นั้น
                ในกรณีจำนวนเงินบำเหน็จตามระเบียบนี้  มีจำนวนมากกว่าเงินชดเชยที่เจ้าหน้าที่พึงได้รับ  ตามข้อ  66  ให้สหกรณ์จ่ายเงินบำเหน็จเพิ่มได้เฉพาะส่วนที่เกินกว่าเงินชดเชยเท่านั้น
                เจ้าหน้าที่ของสหกรณ์ซึ่งออกจากตำแหน่งเพราะตายสหกรณ์จะจ่ายเงินบำเหน็จให้แก่ทายาท
               ข้อ  70  เพื่อประโยชน์แก่การจ่ายเงินบำเหน็จ   ค่าชดเชย   แก่เจ้าหน้าที่ของสหกรณ์ให้สห-
กรณ์ตั้งเงินสำรองจ่ายเงินบำเหน็จ   และค่าชดเชยไว้ตัดจ่ายเป็นค่าใช้จ่ายประจำปีตามจำนวนที่คณะ
กรรมการดำเนินการพิจารณาเห็นสมควร
                ข้อ  71  ภาษีเงินได้อันพึงชำระตามกฎหมาย  ให้ผู้รับเงินชดเชย   และเงินบำเหน็จเป็นผู้จ่ายทั้งสิ้น

                                                 หมวด  17
                                                 เบ็ดเตล็ด

                ข้อ  72  การหยุดกิจการชั่วคราว    ในกรณีที่สหกรณ์มีความจำเป็นต้องหยุดกิจการเป็นการชั่วคราวเนื่องจากหน่วยงานหรือสถานประกอบการที่สหกรณ์ตั้งอยู่หยุดกิจการหรือสหกรณ์ประสบภาวะทางเศรษฐกิจ  สหกรณ์จะแจ้งเหตุการณ์หยุดกิจการให้เจ้าหน้าที่ทราบล่วงหน้า และจ่ายเงินในระหว่างการหยุดกิจการในอัตราร้อยละ 50 ของค่าจ้าง
                ข้อ  73  กฎระเบียบอื่น ๆ
                                (1) กฎ ระเบียบ คำสั่ง  ซึ่งใช้บังคับกับส่วนงานใดส่วนงานหนึ่ง  เป็นการเฉพาะให้ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของข้อบังคับในการทำงานนี้ด้วย ทั้งนี้ รวมถึงใบสมัครงาน  สัญญาจ้าง หนังสือ ค้ำประกันและข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้าง
                                (2) การใดที่มิได้กำหนดไว้ในข้อบังคับนี้  ให้ถือปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองแรงงาน
                                (3) กฎ ระเบียบ คำสั่ง ขัดหรือแย้งกับระเบียบนี้ให้ใช้ระเบียบนี้แทน
                ข้อ  74  การแก้ไขการเปลี่ยนแปลง  ข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานนี้  ได้จัดทำขึ้นให้มีความสอดคล้องกับพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 แล้ว  อย่างไรก็ตามสหกรณ์สงวนสิทธิ์ในการแก้ไขปรับปรุง  ให้มีความเหมาะสมเป็นธรรมยิ่งขึ้น  รวมทั้งสอดคล้องกับการจ้างตามพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. 2518 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
                ข้อ  75  การบังคับใช้
                                (1)  ให้เจ้าหน้าที่ทุกระดับ  ศึกษาระเบียบนี้ให้มีความเข้าใจอย่างชัดแจ้ง   เพื่อให้มี การปฏิบัติอย่างถูกต้อง และมอบให้แก่เจ้าหน้าที่ทุกคน
                                (2) เจ้าหน้าที่ทุกคนจะปฏิเสธว่าไม่ทราบเงื่อนไข หลักเกณฑ์   และแนวปฏิบัติตาม ระเบียบนี้ไม่ได้
                                (3) เจ้าหน้าที่ระดับบังคับบัญชา  และคณะกรรมการดำเนินการ  เป็นผู้ควบคุม ดูแลให้เจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติการ ปฏิบัติตามอย่างถูกต้องและเคร่งครัด
                                (4) ระเบียบนี้มีผลบังคับใช้ตามข้อ 2

 

                 กำหนดให้ไว้  ณ  วันที่  18  ตุลาคม  พ.ศ. 2550
                                      ศรีโพธิ์   วายุพักตร์     
                               ( นายศรีโพธิ์    วายุพักตร์ )
                                      ประธานกรรมการ
             สหกรณ์ออมทรัพย์สหภาพแรงงานไทยเรยอน จำกัด

กลับหน้าหลัก